welcome to watphubon blogger ยินดีต้อนรับสุ่ blogger ของวัดพุบอน ร่วมกันมุ่งมั่นศึกษา ปฏิบัติ เผยแผ่คำของตถาคต ถึงจะขอเมตตาครู อาจารยสอนให ก็ ไมควรหางไกลจากพระไตรปฎก

วันเสาร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2557

ฐานที่ตั้งแห่งสติ



สตินั้นให้ตั้งมั่นในปัจจุบันอารมณ์
ฐานที่ตั้งแห่งสติคืออารมณ์ปัจจุบัน
อารมณ์อดีตอนาคตไม่เป็นที่ตั้งแห่งสติ
กำหนดความรู้สึกที่กายจะได้ปัจจุบันอารมณ์
ความรู้สึกที่กายจะเป็นปัจจุบันอารมณ์ตลอด
จงกำหนดสติที่กาย
กำหนดสติที่ลมหายใจเรียกว่าอานาปานสติ
กำหนดสติที่การเคลื่อนไหวของกายเรียกว่าเจริญสติในอิริยาบถ
สติในปัจจุบันอารมณ์มีค่าอย่างยิ่งต่อท่านผู้ปฏิบัติธรรม
จะเป็นจุดเริ่มต้นแก่กรรมฐานทั้งหลาย
จะเป็นบ่อเกิดของธรรมทั้งหลายมีโพธิปักขิยธรรม ๓๗ เป็นต้น
ถ้าปล่อยใจไปอดีตอนาคตจะเป็นที่ตั้งแห่งธรรมไม่ได้
ปัจจุบันอารมณ์เป็นที่ทำงานของท่านผู้ปฏิบัติธรรม
ปฏิบัติไปถึงไหนก็อย่าทิ้งปัจจุบันอารมณ์

ปัจจุบันอารมณ์เป็นตาน้ำแห่งธรรมทั้งปวง

วันพุธที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2557

บุญที่เลิศ






บุญที่เลิศ อายุ วรรณะ ยศ เกียรติคุณ สุข และพละ
อันเลิศ ย่อมเจริญแก่บุคคลผู้รู้แจ้งซึ่งธรรมอันเลิศ เลื่อมใส
โดยความเป็นของเลิศ เลื่อมใสในพระพุทธเจ้าผู้เลิศ ผู้
เป็นทักขิไณยบุคคลชั้นเยี่ยม เลื่อมใสในพระธรรมอันเลิศ
ซึ่งเป็นธรรมปราศจากราคะ สงบและเป็นสุข เลื่อมใส
ในพระสงฆ์ผู้เลิศ ซึ่งเป็นบุญเขตชั้นเยี่ยม ถวายทานใน
ท่านผู้เลิศนั้น ผู้มีปัญญาตั้งมั่นแล้วในธรรมอันเลิศ ให้ทาน
แก่ท่านผู้เป็นบุญเขตอันเลิศ จะเกิดเป็นเทวดาหรือมนุษย์
ก็ตาม ย่อมถึงความเป็นผู้เลิศ บันเทิงอยู่ ฯ

วันอังคารที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2557

ภิกษุเหล่าใด



ภิกษุเหล่าใด ล่อลวง กระด้าง ประจบ วางท่า มีมานะดุจ
ไม้อ้อ และไม่ตั้งมั่น ภิกษุเหล่านั้นย่อมไม่งอกงามใน
ธรรม อันพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงแล้ว ส่วนภิกษุ
เหล่าใดไม่  ล่อลวง ไม่ประจบ เป็นธีรชน ไม่กระด้าง ตั้ง
มั่นดีแล้ว ภิกษุเหล่านั้นแล ย่อมงอกงามในธรรม อัน
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงแล้ว ฯ
เมื่อภิกษุสันโดษด้วยปัจจัยอันหาโทษมิได้ ทั้งน้อยและหา
ได้ง่าย ปรารภเสนาสนะ จีวร ปานะ และโภชนะ จิตของ
เธอก็ไม่คับแค้นไม่กระทบกระเทือนทุกทิศ และธรรม
เหล่าใดอันภิกษุนั้นกล่าวแล้ว อนุโลมแก่สมณธรรม
ธรรมเหล่านั้นอันภิกษุผู้ไม่ประมาท มีความสันโดษถือเอา
โดยยิ่ง ฯ


รู้ตามเป็นจริงในโลกทั้งปวง



        ผู้ใดรู้ยิ่งแล้วซึ่งโลกทั้งปวง รู้ตามเป็นจริงในโลกทั้งปวง
พรากไปจากโลกทั้งปวง ไม่มีกิเลสนอนเนื่องในสันดานในโลก
ทั้งปวง ผู้นั้นแล เป็นธีรชนผู้ครอบงำอารมณ์ทั้งปวงได้
ปลด เปลื้องกิเลสเครื่องร้อยรัดทั้งมวลเสียได้ เป็นผู้ถูกต้อง
นิพพานอันมีความสงบอย่างยิ่ง ไม่มีภัยแต่ที่ไหนๆ ผู้นี้
เป็นพระขีณาสพผู้รู้แล้ว ไม่มีทุกข์ ตัดความสงสัยได้แล้ว
ถึงความสิ้นไปแห่งกรรมทั้งปวง เป็นผู้หลุดพ้นเพราะความ
สิ้นไปแห่งอุปธิ บุคคลนี้เป็นผู้มีโชค เป็นพุทธะ ชื่อว่า
เป็นสีหะผู้ยอดเยี่ยม ประกาศพรหมจักรให้แก่โลกทั้งเทว
โลก เพราะเหตุนั้น เทวดาและมนุษย์จึงถึงพระพุทธเจ้า
ว่าเป็นสรณะ มาประชุมกันนมัสการพระองค์ผู้เป็นใหญ่
ผู้ปราศจากความขลาด เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายจัก
นมัสการ พระองค์ผู้เป็นใหญ่ ผู้ปราศจากความขลาด กล่าว
สรรเสริญว่า เป็นผู้ฝึกตนประเสริฐกว่าบรรดาผู้ฝึกตน
ทั้งหลาย เป็นฤาษีผู้สงบกว่าบรรดาผู้สงบทั้งหลาย เป็น
ผู้พ้นชั้นเยี่ยมกว่า บรรดาผู้พ้นทั้งหลาย เป็นผู้ข้ามฝั่ง
ประเสริฐกว่าบรรดาผู้ข้าม ฝั่งทั้งหลาย ในโลกพร้อมทั้ง
เทวโลก จะหาบุคคลเปรียบ ด้วยพระองค์ไม่มี ฯ

วันพุธที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ชาวโลกส่วนใหญ่



ชาวโลกส่วนใหญ่เห็นเราก็แค่เปลือกนอก
ไม่สามารถมองเห็นแก่นแท้ส่วนลึกในใจ
คำสรรเสริญนินทาติชมนั้นทำได้แค่วิจารณ์เปลือกนอก
ถ้าสร้างภาพมาหลอกกันก็สามารถได้รับคำเยินยอแล้ว
คนทำความดีอย่างปิดทองหลังพระอาจถูกสังคมเห็นว่าชั่ว
จงเข้าใจให้ลึกซึ้งถึงสัจธรรม
ใครเคารพยกย่องสรรเสริญจงอย่าดีใจ
ใครก่นด่าว่าดูถูกดูหมิ่นดูแคลนจงอย่าเสียใจ
เกิดมาชาติหนึ่งอย่าเพียงต้องการได้รับยกย่องสรรเสริญ
เกิดมาชาติหนึ่งอย่าเห็นการดูหมิ่นดูแคลนเป็นปัญหา
จงทำจิตให้หนักแน่นมั่นคงกว้างขวางยิ่งใหญ่
ถ้าติดอยู่กับการให้คะแนนของชาวโลกจะทำความเจริญแก่ชีวิตได้ยาก
จงตั้งมั่นในความดี
เอาความดีเป็นแก่นแท้ของชีวิต
สิ่งใดไม่ละอายต่อมโนธรรมก็กระ­ทำไป
จงอย่ารอคอยเพื่อเป็นผู้เสพเสวยโลก
จงทำหน้าที่ด้วยความชอบธรรมสม่ำเสมอ
อย่ารอคอยการยอมรับและการให้คะแนนของชาวโลก

ชาวโลกเห็นเราก็แค่เปลือกไม่ใช่แก่นแท้

ความสงบสันติ



ความสงบสันติคือสุขที่ถาวรของชีวิต
ตื่นเต้นเพื่อเศร้าสร้อย
ลิงโลดเพื่อเหงาหงอย
สมหวังเพื่อผิดหวัง
ยินดีเพื่อยินร้าย
เฟื่องฟูเพื่อตกดิ่ง
โด่งดังเพื่ออับแสง
กดสปริงไปข้างซ้ายมากเท่าใด
จะกระเด้งไปข้างขวามากเท่านั้น
ที่จุดกึ่งกลางนั่นจึงเป็นจุดสมดุล
ความสุขยั่งยืนอยู่ที่ความพอดีของชีวิต
แสวงหาเท่าไรก็ไม่เจอ
เมื่อเลิกหาจึงเจอ

วันศุกร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ในขณะที่เจอปัญหา





ในขณะที่เจอปัญหา
ในขณะที่เจอวิกฤตการณ์
ถ้าไม่รู้จะแก้ไขอย่างไร
นิ่งไว้เสียก่อนเป็นดี
อดทนอดกลั้นให้มั่นคง
อาละวาดโวยวายตีโพยตีพายจะยิ่งเสีย
ประชดประชันทำลายตัวเองจะยิ่งพัง
จงยอมรับความมีอยู่ของปัญหาแล้วหาสาเหตุ
พยายามเข้าไปแก้ที่เหตุอย่าแก้ที่ผล
อย่าหนีปัญหาอย่ากลบเศษแก้วด้วยขี้เถ้า
ค่อยค่อยแก้ปัญหาไปทีละเล็กทีละน้อย
ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดเสมอต้นเสมอปลาย
เรื่องไหนที่คุมไม่ได้อย่าเสียสมองไปกลุ้มกับมัน
จะได้เอาสมองส่วนนั้นมาคิดเรื่องที่เราคุมได้
ไม่มีปัญหาใดที่แก้ไม่ได้
ยกเว้นแต่จะไม่ยอมมามองความจริง ไม่ยอมแก้ปัญหา

คิดตามที่เหตุการณ์มันเป็นจริงดีกว่า อย่าคิดตามที่ฝันไว้

วันศุกร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

อย่าใจร้อนมุทะลุ


อย่าใจร้อนมุทะลุ
อย่าใจเร็วด่วนได้
ต้องรู้จักรอคอยต้องรู้จักอดกลั้น
อย่าคิดแต่จะให้ได้ดังใจของตัว
ถ้าได้ดังใจทุกอย่างระวังนิสัยจะเสีย
ความผิดคาดผิดหวังคือรสเผ็ดของชีวิต
จะต้องมีอยู่บ้างเพื่อให้ชีวิตมีรสชาติ
ถ้าได้ดังใจทุกอย่างชีวิตจะจืดชืด
จงยอมรับความเป็นจริงอย่าหนีความจริง
หนีความจริงจะทำให้จิตใจอ่อนแอ
จงยอมรับความจริงของชีวิต
อย่าหวั่นไหวต่อความขึ้นลงของชีวิต
อย่าอารมณ์แปรปรวนไปตามความสมหวังผิดหวัง
จงตั้งจิตให้หนักแน่นอย่าแปรปรวนง่าย
ขวนขวายสร้างงานด้วยความอดทนอดกลั้น
อย่าใจร้อนรีบเร่งต้องการผลประโยชน์
จงพรวนดินรดน้ำบำรุงรักษาต้นไม้อย่างใจเย็น
ผลจะออกมาเองเมื่อถึงเวลาอันสมควร

ความใจร้อนจะทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างพังไปก่อนได้รับผล

วันจันทร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2557

คำพูด



คำพูดนั้นออกจากใจมาสู่ปาก
คำพูดที่ดีย่อมทำให้ใจหอมปากหอม
คำพูดไม่ดีย่อมทำให้ใจเหม็นปากเหม็น
คนเราฝึกอะไรก็เป็นได้ไม่ยาก
ฝึกหัดอะไรถ้าตั้งใจก็จะเป็นทั้งสิ้น
ฝึกพูดดีย่อมลิขิตชีวิตของตนให้เจริญรุ่งเรือง
ฝึกพูดร้ายย่อมลิขิตชีวิตของตนให้เสื่อมตกอับ
การพูดร้ายคือวจีทุจริตมี ๔ ประการ
พูดปดมดเท็จหลอกลวงปลิ้นปล้อน
พูดส่อเสียดยุยงให้คนแตกความสามัคคีทะเลาะวิวาทกัน
พูดคำหยาบคายด่าว่าให้เจ็บช้ำน้ำใจ
พูดเพ้อเจ้อส่งเดชหาแก่นสารใจความไม่ได้
วจีทุจริตทั้ง ๔ อย่างนี้บัณฑิตพึงละเสีย
เคยติดนิสัยมาแต่กาลใดก็ต้องแก้ไขให้ได้
คำพูดชั่วจะทำร้ายทำลายตน
คำพูดดีนั้นมีคุณหาประมาณมิได้


วันศุกร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2557

เอาความดี


ต้องการสิ่งใดก็ตามทีในโลกนี้
เอาความดี  ความเพียร  ความจริงใจไปแลกก็คงจะได้ทั้งสิ้น
ใจของคนในโลกนี้ลนให้อ่อนลงได้ด้วยความดีงาม
เอาความชั่ว­ช้าเลวทรามไปลนจะยิ่งแข็งกระด้างตีโต้กลับ
ก้นบึ้งหัวใจของคนในโลกจะยอมอ่อนข้อให้คนดี
คนเราจะไม่ยอมลงให้ใครถ้าไม่เคยซึ้งใจกันมา
คนเรานั้นจะซึ้งใจกันตรงความดีไม่ใช่ความชั่ว
คนฉลาดในโลกจึงขวนขวายสร้างความดี
โดยไม่หวั่นไหวต่อสิ่งเร้าที่กระตุ้นให้ลงต่ำ
ผู้ทุศีลทำลายตัวเองอย่างไม่มีชิ้นดีก่อน
แล้วจึงค่อยไปทำลายคนอื่น
ความชั่วที่ตั้งขึ้นในใจใครย่อมทำลายใจดวงนั้นก่อน
แต่ผู้ไร้ปัญญาไร้ความคิดยังเปิดโอกาสรับความชั่วเข้าสู่ใจอย่างยินดี
บัณฑิตย่อมละอายต่อบาปเกรงกลัวต่อบาป
เห็นโทษความชั่วในใจตนยิ่งกว่ามารร้ายผีเปรตใดใด
ผู้รักษาความดีในใจตนมีค่าเท่ากับรักษาทุกสิ่งในโลก


วันพฤหัสบดีที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ฝูงไก่


ฝูงไก่ที่ถูกขังอยู่ในสุ่มแคบเตรียมจะถูกนำไปเชือด
แม้อยู่ใกล้ความตายเพียงคืบศอกก็หารู้ไม่
ยังจิกกันยังแก่งแย่งแข่งความเป็นใหญ่ในสุ่มแคบนั้น
ผู้คนเดินผ่านมามองเห็นย่อมสังเวชใจยิ่งนัก
เจ้าไก่เอ๋ยเจ้าใกล้ตายอยู่รอมร่อยังทะเลาะวิวาทเบียดเบียนกัน
ไม่รู้จักเมตตาอารีผ่อนหนักผ่อนเบาช่วยเหลือเกื้อหนุนกัน
มนุษย์ทั้งหลายก็ถูกขังอยู่ในสุ่มแคบเช่นกัน
มีผนังสองด้านด้านหนึ่งคือความเกิดด้านหนึ่งคือความตาย
ผนังสองด้านอยู่ใกล้กันนักผู้ที่เกิดมาไม่มีใครพ้นความตาย
มนุษย์ทุกคนตั้งแต่วันเกิดก็เหมือนนักโทษ
ถูกตัดสินประ­หารชีวิตแล้วทุกคน รอแต่เวลาลงอาญา
โลกนี้คือลานประ­หารยิ่งใหญ่ที่ไม่บอกเวลาลงทัณฑ์ล่วงหน้า
มีวิธีการประ­หารที่หลากหลายที่สุดเครื่องมือประ­หารก็มากที่สุด
หมู่มนุษย์ผู้ไร้ปัญญาก็ยังเบียดเบียนกันเหมือนไก่ในสุ่มแคบ
แม้อยู่ใกล้ความตายเพียงคืบศอกก็หารู้ไม่
ท่านทั้งหลายจงเมตตาอารีผ่อนหนักผ่อนเบาช่วยเหลือเกื้อหนุนกัน
อย่าเบียดเบียนกันอย่าเอารัดเอาเปรียบกัน

ล้วนแต่เป็นเพื่อนนักโทษที่รอเวลาลงอาญาจะทำร้ายกันไปทำไมเล่า

วันพฤหัสบดีที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2557

เมื่อคิดทุจริต



เมื่อคิดทุจริตฉ้อฉลก็พลาดท่าเสียแล้ว
ทำร้ายทำลายตัวเองตั้งแต่เริ่มคิดก็ไม่รู้ตัว
แค่คิดก็เดือดร้อนแล้วทำออกมาจริงยิ่งเป็นหายนะ
ความชั่ว­ช้าเลวทรามไม่เป็นที่พึ่งแก่ใครได้
ความชั่ว­ช้าเลวทรามไม่เป็นที่รักของใคร
มหาโจรที่เลวร้ายที่สุดยังต้องการคนซื่อสัตย์มาอยู่ใกล้
คนชั่วที่สุดก็อยากได้ของดี
ความชั่วไม่เป็นที่ต้องการของใคร
นั่นหมายถึงคนชั่วนั้นไม่ต้องการตัวเอง
คนชั่วทำลายตัวเองด้วยการทำชั่ว
เรื่องดังนี้ผู้มีปัญญาที่ไหนจะทำได้
ฉะนั้นคนทำชั่วคือคนโง่เขลาเบาปัญญาทั้งสิ้น
เพราะไร้ปัญญาจึงกระ­ทำความชั่ว
เพราะโง่เขลาจึงประกอบเรื่องทุจริต
ผู้มีปัญญาจึงรักษาความดีเหมือนเกลือรักษาความเค็ม
ไม่ประกอบทุจริตแม้มีสิ่งมาล่อใจ


วันอังคารที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ทุกอณูของชีวิต


ทุกอณูของชีวิตคือความไม่เที่ยง
ทุกอณูของวัตถุนิ่งคือสิ่งเคลื่อนไหว
ทุกสิ่งในโลกพึ่งความเปลี่ยนแปลง
ถ้าไม่มีความเปลี่ยนแปลงกลไกในโลกจะหยุดไปสิ้น
ไม่มีสิ่งใดในจักรวาลที่อยู่กับการไม่เปลี่ยนแปลง
อนิจจังคือรากเหง้าของกฎธรรมชาติ
เพียงแต่จิตที่มีอุปาทานจะไม่ยอมรับความจริง
จึงต้องกลายเป็นจิตวิญญาณชั้นต่ำ
ต้องเกิดความทุกข์ใจกับกลไกของการเปลี่ยนแปลง
ทั้งที่มันเป็นกลไกธรรมดาของสรรพสิ่ง
ทุกสิ่งในโลกไม่เที่ยงแท้
ล้วนแล้วแต่ต้องเปลี่ยนแปลงไปตามเหตุปัจจัย
เพราะจิตโง่เขลาเบาปัญญาจึงไม่ยอมรับความจริงข้อนี้

วันอาทิตย์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2557

น้ำค้างพร่างพราวพราย


น้ำค้างพร่างพราวพราย แสงทองฉายที่ปลายฟ้า 
ชีวิตเริ่มอีกครั้ง สิ่งที่หวังยังรอท่า 
ความหมายอาจไกลตา แต่จะฝ่ามุ่งหน้าไป 
และใช่อาจไม่ถึง แต่ก็ยิ้มและสุขใจ 
ไม่ขอท้อต่อสิ่งใด แม้ทำได้แค่กรุยทาง 
ก้าวต่อไปไปอย่าได้หยุด แม้สะดุดล้มลงไปอย่าใจฝ่อ 
เป็นนักสู้ต้องสู้สิอย่ารีรอ อย่าย่อท้อหนทางยาวที่ก้าวไป 
โน่นจุดหมายปลายทางอยู่ข้างหน้า จะเหินฟ้าข้ามเขาเอาให้ได้ 
มิหวั่นพลาดมิหวั่นแพ้มิแคร์ใคร มิหวั่นใจมิหวั่นจิตสักนิดเดียว 

วันอังคารที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2557

คนเราเกิดมา




คนเราเกิดมาในจักรวาลนี้ที่กว้างใหญ่ไพศาล
คนเรานี่เป็นส่วนแค่เศษธุลีที่เล็กนัก
เมื่อเกิดมาก็ต้องอาศัยผู้อื่นอุ้มชูช่วยเหลือ
กว่าจะใหญ่โตมาได้ก็ด้วยการเกื้อกูลของบุคคลอื่น
แล้วจะถือตัวถือดีเย่อหยิ่งไปทำไม
บัณฑิตทั้งหลายเป็นผู้มีปัญญามาก
จึงเห็นว่าโลกนี้อยู่ได้ด้วยการพึ่งพาอาศัยกัน
จึงแสดงออกต่อโลกด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตน
จึงแสดงออกต่อโลกด้วยความกตัญญูรู้คุณ
จึงแสดงออกต่อโลกด้วยความเมตตากรุณา
ไม่ถือตัวว่ายิ่งใหญ่
ไม่เย่อหยิ่งถือดีก้าวร้าว
อยู่ในโลกอย่างคิดแทนคุณโลก
พร้อมเสมอในการช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส
โลกนี้จะอยู่ได้ก็ด้วยการพึ่งพาอาศัยกัน
ท่านทั้งหลายจงมีเมตตากรุณาต่อกันและกัน
ท่านทั้งหลายจงอย่าเบียดเบียนกัน


วันเสาร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ยอมรับ



ผู้ที่มีใจคอกว้างขวางย่อมไม่ปฏิเสธอะไรง่าย
สามารถยอมรับได้แม้แต่สิ่งที่ตัวเองรังเกียจ
ทะเลเมื่อรองรับสายน้ำที่หลากหลายจึงยิ่งใหญ่
ท่านผู้คิดประกอบกิจการงานใหญ่อย่าเพียงสนใจความรักชังส่วนตน
อย่าเพียงเอาความคิดของตนเองเป็นใหญ่
จงประสานสิ่งดีที่สุดของหมู่ชนมารวมกัน
ยอมรับได้กับความคิดดีดีที่ออกมาจากคนที่ตนไม่ชอบ
ยกย่องคนตามผลงานโดยไม่สนใจความชอบชังส่วนตัว
แม้คนใกล้ชิดทำผิดก็ต้องลงโทษด้วยยุติธรรม
ผู้ที่ทำตัวให้ผู้อื่นกินแหนงแคลงใจจะทำงานใหญ่ได้หรือ
จงทำตัวให้มวลชนยอมรับในความเที่ยงธรรม
จะได้อะไรจากใครให้ได้หัวใจเขามาก่อน
ถ้าไม่ได้จิตใจของมวลชนงานใหญ่จะดำเนินไปไม่ได้
หน้าที่ต้องมาก่อนอย่าทำอะไรตามใจชอบ
อย่าเห็นแก่ตัวอย่าเอาความต้องการส่วนตัวเป็นใหญ่
คนเห็นแก่ตัวจะเล็กลงทุกที


เมื่อคิดทุจริต



เมื่อคิดทุจริตฉ้อฉลก็พลาดท่าเสียแล้ว
ทำร้ายทำลายตัวเองตั้งแต่เริ่มคิดก็ไม่รู้ตัว
แค่คิดก็เดือดร้อนแล้วทำออกมาจริงยิ่งเป็นหายนะ
ความชั่ว­ช้าเลวทรามไม่เป็นที่พึ่งแก่ใครได้
ความชั่ว­ช้าเลวทรามไม่เป็นที่รักของใคร
มหาโจรที่เลวร้ายที่สุดยังต้องการคนซื่อสัตย์มาอยู่ใกล้
คนชั่วที่สุดก็อยากได้ของดี
ความชั่วไม่เป็นที่ต้องการของใคร
นั่นหมายถึงคนชั่วนั้นไม่ต้องการตัวเอง
คนชั่วทำลายตัวเองด้วยการทำชั่ว
เรื่องดังนี้ผู้มีปัญญาที่ไหนจะทำได้
ฉะนั้นคนทำชั่วคือคนโง่เขลาเบาปัญญาทั้งสิ้น
เพราะไร้ปัญญาจึงกระ­ทำความชั่ว
เพราะโง่เขลาจึงประกอบเรื่องทุจริต
ผู้มีปัญญาจึงรักษาความดีเหมือนเกลือรักษาความเค็ม
ไม่ประกอบทุจริตแม้มีสิ่งมาล่อใจ


วันอังคารที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ผ้าขาวผืนหนึ่ง



เมื่อเจอผ้าขาวผืนหนึ่ง
ฝูงชนจะเพ่งดูรอยเปื้อน
จุดดำเล็ก ๆ บนผ้าขาวฝูงชนจะถือเป็นเรื่องใหญ่
สิ่งโสโครกบนผ้าดำฝูงชนจะไม่ใส่ใจ
ท่านผู้ปฏิบัติธรรมจงขวนขวายสร้างความดี
จงรักษาจิตตัวเองให้สะอาดอยู่เสมอ
แต่จงอย่าป่าวประกาศว่าตนเองบริสุทธิ์สะอาด
ถ้าประกาศออกไปจะมีคนมากมายมาคอยจับผิด
จะมีคนมากมายมาคอยขุดคุ้ยเสียดสีในความดีที่สร้าง
ฉะนั้นการประกาศว่าตัวเองบริสุทธิ์จะนำมาซึ่งเรื่องยุ่งยาก
นักปฏิบัติธรรมจงรักษาจิตให้สะอาดอย่างผ้าขาว
แต่จงถ่อมตนเหมือนผ้าขี้ริ้ว
อย่าโอ้อวดโม้สรรพคุณตัวเอง
การตั้งตัวประกาศตนเป็นผู้บริสุทธิ์จะนำมารใหญ่มา
คนฉลาดจึงไม่โอ้อวดสรรพคุณตัวเอง
พระอรหันต์ทั้งหลายมักถ่อมตนว่ายัง­มีกิเลสหนา
คำถ่อมตนที่ออกจากปากเรานั้นคนที่เกลียดเรายังรู้สึกน่าฟัง
นับประสาอะไรกับคนที่รักเมตตาเราจะไม่ชื่นชมยินดีเล่า

คนฉลาดจะไม่อวดโม้สรรพคุณตนเอง

วันเสาร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ยังต้องทิ้ง



แม้แต่ร่างกายนี้ยังต้องทิ้ง
สมบัตินอกกายใครจะหอบหิ้วเข้าเมืองผีไปด้วยได้
บัณฑิตใช้สอยปัจจัยพอประมาณไม่ฟุ้งเฟ้อ
ส่วนที่เหลือนำไปเจือจานเกื้อกูลทำประโยชน์มวลชน
กายนี้จะบำรุงบำเรอเท่าไรก็ต้องเน่าเข้าโลง
ท่านผู้มีปัญญาเห็นความไม่เที่ยงแท้แน่นอนของชีวิต
จึงขวนขวาย  บริจาคทาน  รักษาศีล  เจริญภาวนา
ไม่ปล่อยให้วันเวลาผ่านเลยไปเปล่า
ไม่ปล่อยให้โอกาสสร้างความดีลอยผ่านหน้า
ผู้มีปัญญาจะเป็นสุข­ใจเมื่อสั่งสมบุญกุศล
บุญกุศลนี่แหละที่จิตวิญญาณจะนำพาไปได้
วัตถุข้าวของต้องทิ้งทั้งสิ้น
จงเร่งขวนขวายสร้างบุญกุศล
ชีวิตเป็นของไม่เที่ยง  ความตายเป็นของเที่ยง
ชีวิตเป็นของไม่แน่นอน  ความตายเป็นของแน่นอน


คืนสู่สามัญ





เมื่อขึ้นสูงสุดจะคืนสู่สามัญ
เพราะปัญญาสูงสุดจึงแสดงออกซึ่งความกลมกลืน
เพราะรู้แจ้งสรรพสิ่งจึงเห็นว่าสิ่งทั้งปวงมีค่าเสมอกัน
เพราะรู้แจ้งโลกธาตุจึงไม่แบ่งแยกสิ่งทั้งปวง
ไร้เขา ไร้เรา ไร้เกิด ไร้ดับ
เมื่อมีเขาก็มีเรา เมื่อมีเราก็มีเขา
เมื่อมีเกิดก็มีดับ เมื่อมีดับก็มีเกิด
เมื่อไร้อุปาทานจึงไร้ความยึดมั่นถือมั่น
ไม่มีตัวตนสำหรับเป็นเราเป็นเขา
ไม่มีตัวตนสำหรับเกิดดับ
เมื่อไร้อุปาทานก็ไม่แสวงหาสิ่งใด
ไม่ต้องการบรรลุเป็นอะไร
เมื่อจิตไม่รอคอยสิ่งใด ปัจจุบันขณะจึงเป็นคำตอบ
ไม่ปรารถนาสิ่งใดอีก
รู้สึกถึงความสม่ำเสมอของโลกธาตุ

เมื่อขึ้นสูงสุดจะคืนสู่สามัญ

วันจันทร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2557

สุขเร็วพลัน


สุขเร็วพลันกลั่นจากจิต

สู่ญาติมิตรที่คิดถึง

ทุกวาจา…..ยังตราตรึง

จากก้นบึ่งซึ่งห่วงใย

หากเหนื่อยล้าทั้งขาแขน

เรี่ยวแรงแทนอย่างเร็วไหว

สุขมากมายทั้งกายใจ

ทวยเทพไทช่วยอีกที

จะไปไหนให้แคล้วคลาด

ภัยอาฆาตปราศหลีกหนี

ทุกสิ่งอย่างจงมากมี

เงินมันนี่มีมากมายฯ

อย่า




อย่าพูดโกหก           อย่าพกแต่ลม               อย่าชมแต่รูป
อย่าสูบแต่ราก          อย่ามากแต่โง่               อย่าโตแต่เปลือก
อย่าเสือกหาเรื่อง       อย่าเคืองคนสอน          อย่านอนขี้เซา
อย่าเมาการโลก        อย่าโศกเกินเหตุ           อย่าเทศน์ผิดหลัก
อย่าผลักความผิด     อย่าปิดช้างตาย             อย่าหมายเมียท่าน
อย่าผลาญพ่อแม่      อย่าแส่หาความ             อย่าตามคนโง่
อย่าโวแต่ปาก          อย่าอยากของเขา           อย่าเล่าความลับ
อย่ามักใจง่าย           อย่าตามเสียชื่อ             อย่าถือข้างผิด
อย่าคิดข้างชั่ว          อย่ายั่วตัณหา               อย่าด่าข้าทาส
อย่าคาดโดยเดา       อย่าเอาแต่จิต               อย่าคิดนอกคอก
อย่าลอกทองพระ      อย่าละความสัตย์           อย่าตัดช่องน้อย
อย่าสอยดวงดาว       อย่าสาวดวงเดือน          อย่าเบือนเบื่อบุญ
อย่าฉุนโกธรง่าย      อย่าส่ายเพราะโลภ         อย่าละโมบอาหาร
อย่าผลัดกาลเวลา      อย่าด่าแดดฝน             อย่าโหลนเหลาะแหละ
อย่าแคะค่อนคน      อย่าบ่นวันคืน              อย่ายืนเกะกะ
อย่าสะเรียวหนาม     อย่าพูดยามฟังเทศน์     อย่ายกเหตุผิด
อย่าคิดข่มท่าน        ความชั่วอย่าทำเสียเลยจะดีกว่า

วันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2557

คุณธรรม



มีคุณธรรมเท่านั้นที่สูงล้ำเลิศ
ผู้มีคุณธรรมเป็นนิจ ชีวิตจะเป็นสุขเสมอ
สุขจากคุณธรรม แสดงว่าตนมีคุณธรรมความดี
ปลูกต้นไม้บำรุงราก ปลูกฝังคุณธรรมต้องบำรุงจิตใจ
ร่างกายสมบูรณ์ไม่ต้องใช้ยาบำรุง จิตใจดีงามไม่ต้องกินเจ
การแจกเงินให้ผู้อื่นได้ สู้แจกคติธรรมสอนคนอื่นไม่ได้
สุภาพชนรักผู้อื่นด้วยคุณธรรม
คุณความดีเป็นรากฐานการสร้างมิตรไมตรี
ความหวั่นกลัวเป็นอุปสรรคการสร้างคุณธรรมทั้งมวล
จงเอาความตั้งใจแสวงหาชื่อเสียงไปแสวงหาคุณธรรม
คนดีเกลียดชังความชั่ว เพราะรักในคุณธรรม
คนดีย่อมสร้างคุณธรรมให้ผู้อื่นดีกว่าตน
มารยาทอ่อนโยนเป็นมิตรกับคุณธรรมที่แยกไม่ออก
ความอดทนคือบิดาแห่งคุณธรรมทั้งปวง
ความอดทนคือคุณธรรมที่หายาก
คุณธรรมอันยิ่งใหญ่คือ "ภราดรภาพ"
ไม่ขอรับความดีความชอบ แต่ขอเพียงอย่าให้มีความผิด
มองหาคุณความดีในผู้อื่น และมองหาความบกพร่องในตนเอง




วันพฤหัสบดีที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2557

มนุษย์เรา




มนุษย์เรา มีอารมณ์และความรู้สึกอันหลากหลาย

แต่ละอารมณ์ จะสนองตอบตามความเคยชินของสิ่งที่กระทบ
โกรธ เมื่อมีคนมาด่าว่า หรือนินทา
ชื่นชอบ พอใจ เมื่อคำเยินยอหรือสรรเสริญ เอ่ยถึงชื่อตน
แต่สิ่งเหล่านี้ก็มิได้อยู่กับเรา คงทนหรือถาวร
มีเกิดขึ้นแล้วหายไปเกิดขึ้น….แล้วดับไป
เป็นเช่นนี้ ครั้งแล้วครั้งเล่า

ทุกสิ่งอย่างเป็นไปตามกฏแห่งธรรมชาติ (ธรรมะ)

มิได้เป็นไปตามความต้องการของใจ
เราโกรธเขา เกลียดเขา ว่าร้ายเขา
ด้วยคิดว่าได้ความสะใจ สาสมใจ ที่ได้โกรธ ได้เกลียด
และคิดว่าตนเองอยู่เหนือเขา ชนะเขา
แต่หารู้ไม่ว่า ความรู้สึกและอารมณ์นั้นๆ….
กำลังข่มขี่ และทำร้ายตัวเราเอง….
ให้เราเป็นผู้แพ้

เมื่อใดก็ตาม ที่เราโกรธ เกลียด เพ่งโทษ มุ่งร้าย….ใครสักคน

ตอนนั้นเอง เราหาได้ทำร้ายคนที่เราโกรธหรือเกลียดไม่
แต่เรากำลังทำร้าย และข่มเหงตัวเราเองโดยไม่รู้ตัว
และความรู้สึก และอารมณ์นั้นๆ ก็มิได้เป็นความสุขสงบเย็น
และทำให้ผู้ถือมั่นในอารมณ์ และความรู้สึกเช่นนี้ก็จะสะสมพอกพูน….
ความน่ารังเกลียดให้กับตนเอง

การอภัย และอโหสิกรรมให้กับเขาผู้ล่วงละเมิดเรา

แม้คนๆ นั้นจะเคยเป็นศรัตรู หรือเคยทำร้ายเราก็ตามที
เพื่อจะได้ปลดปล่อยตัวเราเองจาก ตนนั่นแหล่ะที่ทำร้ายตนเอง
นี่คือ ผลบุญที่เห็นทันตาของการให้อภัยไม่ถือสา
แต่เป็น อุเบกขาด้วยความเข้าใจทั้งทางโลกและทางธรรม ธรรมะ


ศัตรูก็คือใจของเรานั้นเอง อยากชนะสื่งใดจงชนะใจตนเองให้ได้ก่อน เป็นนายของใจให้ได้ก่อน ชีวิตจะพบความสำเร็จได้ไม่ยากเลย