ผู้ใดรู้ยิ่งแล้วซึ่งโลกทั้งปวง รู้ตามเป็นจริงในโลกทั้งปวง
พรากไปจากโลกทั้งปวง ไม่มีกิเลสนอนเนื่องในสันดานในโลก
ทั้งปวง ผู้นั้นแล เป็นธีรชนผู้ครอบงำอารมณ์ทั้งปวงได้
ปลด เปลื้องกิเลสเครื่องร้อยรัดทั้งมวลเสียได้ เป็นผู้ถูกต้อง
นิพพานอันมีความสงบอย่างยิ่ง ไม่มีภัยแต่ที่ไหนๆ ผู้นี้
เป็นพระขีณาสพผู้รู้แล้ว ไม่มีทุกข์ ตัดความสงสัยได้แล้ว
ถึงความสิ้นไปแห่งกรรมทั้งปวง เป็นผู้หลุดพ้นเพราะความ
สิ้นไปแห่งอุปธิ บุคคลนี้เป็นผู้มีโชค เป็นพุทธะ ชื่อว่า
เป็นสีหะผู้ยอดเยี่ยม ประกาศพรหมจักรให้แก่โลกทั้งเทว
โลก เพราะเหตุนั้น เทวดาและมนุษย์จึงถึงพระพุทธเจ้า
ว่าเป็นสรณะ มาประชุมกันนมัสการพระองค์ผู้เป็นใหญ่
ผู้ปราศจากความขลาด เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายจัก
นมัสการ พระองค์ผู้เป็นใหญ่ ผู้ปราศจากความขลาด กล่าว
สรรเสริญว่า เป็นผู้ฝึกตนประเสริฐกว่าบรรดาผู้ฝึกตน
ทั้งหลาย เป็นฤาษีผู้สงบกว่าบรรดาผู้สงบทั้งหลาย เป็น
ผู้พ้นชั้นเยี่ยมกว่า บรรดาผู้พ้นทั้งหลาย เป็นผู้ข้ามฝั่ง
ประเสริฐกว่าบรรดาผู้ข้าม ฝั่งทั้งหลาย ในโลกพร้อมทั้ง
เทวโลก จะหาบุคคลเปรียบ ด้วยพระองค์ไม่มี ฯ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น