welcome to watphubon blogger ยินดีต้อนรับสุ่ blogger ของวัดพุบอน ร่วมกันมุ่งมั่นศึกษา ปฏิบัติ เผยแผ่คำของตถาคต ถึงจะขอเมตตาครู อาจารยสอนให ก็ ไมควรหางไกลจากพระไตรปฎก

วันอังคารที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2558

คำนมัสการรอยพระพุทธบาท 5 แห่ง ที่ปรากฎในพระไตรปิฏก



คำนมัสการรอยพระพุทธบาท 5 แห่ง 

วันทามิ พุทธัง ภะวะปาระติณณัง
ติโลกะเกตุง ติภะเวกะนาถัง
โย โลกะเสฏโฐ สะกะลังกิเลสัง
เฉตะวานะ โพเธสิ ชะนัง อะนันตัง
ยัง นัมมะทายะ นะทิยา ปุลิเน จะ ตีเร
ยัง สัจจะพันธะคิริเก สุเมนา จะลัคเค
ยัง ตัตถะ โยนะกะปุเร มุนิโน จะ ปาทัง
ตัง ปาทะัลัญชะนะมะหังสิระสา นะมามิ
สุวัณณะมาลิเก สุวัณณะปัพพะเต สุมะนะกูเฏ
โยนะกะปุเร นัมมะทายะ นะทิยา
ปัญจะปาทะวะรัง ฐานัง อะหัง วันทามิ ทูระโต ฯ
อิจเจวะมัจจันตะนะมัสสะเนยยัง
นะมัสสะมาโน ระตะนัตตะยัง ยัง 
ปุญญาภิสันทัง วิปุลัง อะลัตถัง
ตัสสานุภาเวนะ หะตันตะราโยฯ 
อามันตะยามิ โว ภิกขะเว ปะฏิเวทะยามิ โว ภิกขะเว
ขะยะวะยะธัมมา สังขารา อัปปะมาเทนะ สัมปาเทถาติฯ 


คำแปล

ข้าพเจ้าขอนมัสการพระพุทธเจ้าผู้ข้ามพ้นฝั่งแห่งภพ,
ผู้เป็นธงชัยของไตรโลก ผู้เป็นนาถะเอกของไตรภพ,
ผู้ประเสริฐในโลก ตัดกิเลสทั้งสิ้นได้แล้ว ช่วยปลุกชน
หาที่สุดมิได้ให้ตรัสรู้มรรคผลและนิพพาน,
รอยพระบาทใดอันพระพุทธองค์ ได้ทรงแสดงไว้,
ในหาดทรายแทบฝั่งแม่น้ำนัมมะทา,
รอยพระบาทใดอันพระพุทธองค์ ได้ทรงแสดงไว้,
เหนือยอดเขาสัจจะพันธ์ และเหนือยอดเขาสุมะนา,
รอยพระบาทใดอันพระพุทธองค์ ได้ทรงแสดงไว้,
ในเมืองโยนะกะ ข้าพเจ้าขอนมัสการพระบาท และ
รอยพระบาทนั้น ๆ ของพระมุนีด้วยเศียรเกล้า,
ข้าพเจ้าขอนมัสการสถานที่มีรอยพระบาท, 
อันประเสริฐ ๕ สถานแต่ที่ไกล, คือที่เขาสุวรรณมาลิก ๑
ที่เขาสุวรรณะบรรพต ๑, ที่ยอดเขาสุมะนะกูฏ ๑,
ที่โยนะกะบุรี ๑, ที่แม่น้ำชื่อนัมมะทา ๑,
ข้าพเจ้าขอนมัสการอยู่ซึ่งพระรัตนตรัยใดๆ อันบุคคล
ควรไหว้โดยส่วนยิ่ง, อย่างนี้ด้วยประการฉะนี้,
ได้แล้วซึ่งกองบุญอันไพบูลย์,
ขออานุภาพแห่งพระรัตนตรัยนั้นจงขจัดภัยอันตราย เสียเถิด,
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราขอเตือนท่านทั้งหลาย
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราขอให้ท่านทั้งหลายทราบไว้ว่า
สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมสิ้นไปเป็นธรรมดา,
ขอให้ท่านทั้งหลายจงยังประโยชน์ตน และประโยชน์ท่าน
ให้ถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาทเถิด,
ด้วยประการฉะนี้แล ฯ

ทำเสน่ห์



ทำเสน่ห์หรือจะสู้ทำความดี
ใช้อาคมผูกจิตหรือจะสู้ใช้ความจริงใจ
ท่องคาถามัดใจหรือจะเท่าความซื่อสัตย์
เวทย์มนต์ขลังแค่ไหนก็ไม่ยั่งยืน
ความดีงามที่แผ่ซ่านออกจากใจมีอิทธิพลยาวนาน
ถ้าผูกสัมพันธ์ด้วยความดีจะมีน้ำใจข้ามภพข้ามชาติ
ความชั่วนั้นผูกสัมพันธ์ให้ยั่งยืนไม่ได้
คนรักกันเพราะซึ้งในความดี
จะไม่มีใครรักกันเพราะซึ้งในความชั่ว
ความชั่วเป็นสาเหตุแห่งการกินแหนง
เป็นเหตุให้ไว้ใจกันไม่ได้
อยู่กับความดีจึงผ่อนคลาย
อยู่กับความชั่วต้องระแวดระวัง
อยู่ใกล้ความดีได้พักผ่อน
อยู่ใกล้ความชั่วกระวนกระวาย

คุณธรรมยังครองโลกอยู่หนึ่งเดียวจนทุกวันนี้

โลกนี้มีเขา




โลกนี้มีเขามีเหว
จะให้โลกนี้ราบเรียบตลอดได้ที่ไหน
คิดจะให้ราบรื่นเป็นระเบียบไปทั้งโลก
ความคิดนี้เป็นจริงไม่ได้
ผู้คิดจะกลุ้มใจตาย
โลกนี้วุ่นวายไร้ระเบียบเป็นธรรมดา
อย่ารอคอยให้โลกนี้สงบก่อนจึงค่อยเป็นสุข
จงทำจิตให้เป็นสุขสงบเดี๋ยวนี้เลย
เมื่อยอมรับความจริงจะคลายทุกข์ใจไปได้
ถ้าไม่ยอมรับความจริงจิตจะอ่อนแอลงทุกที
ยิ่งหนีความจริงยิ่งเป็นโรคประสาท
ทำจิตให้สบายแล้วไปแก้ปัญหาจะแก้ได้
ถ้าจิตมีปัญหาแล้วจะไปแก้ปัญหาที่ไหนอีกได้เล่า
จงยอมรับความจริงก่อนแล้วจะแก้ปัญหาได้
มันพันยุ่งตรงไหนให้หยิบมาดูเดี๋ยวจะแก้ได้เอง

ไม่มีปัญหาอะไรใหญ่สำหรับผู้อดทนและพากเพียร

วันเสาร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2557

ฐานที่ตั้งแห่งสติ



สตินั้นให้ตั้งมั่นในปัจจุบันอารมณ์
ฐานที่ตั้งแห่งสติคืออารมณ์ปัจจุบัน
อารมณ์อดีตอนาคตไม่เป็นที่ตั้งแห่งสติ
กำหนดความรู้สึกที่กายจะได้ปัจจุบันอารมณ์
ความรู้สึกที่กายจะเป็นปัจจุบันอารมณ์ตลอด
จงกำหนดสติที่กาย
กำหนดสติที่ลมหายใจเรียกว่าอานาปานสติ
กำหนดสติที่การเคลื่อนไหวของกายเรียกว่าเจริญสติในอิริยาบถ
สติในปัจจุบันอารมณ์มีค่าอย่างยิ่งต่อท่านผู้ปฏิบัติธรรม
จะเป็นจุดเริ่มต้นแก่กรรมฐานทั้งหลาย
จะเป็นบ่อเกิดของธรรมทั้งหลายมีโพธิปักขิยธรรม ๓๗ เป็นต้น
ถ้าปล่อยใจไปอดีตอนาคตจะเป็นที่ตั้งแห่งธรรมไม่ได้
ปัจจุบันอารมณ์เป็นที่ทำงานของท่านผู้ปฏิบัติธรรม
ปฏิบัติไปถึงไหนก็อย่าทิ้งปัจจุบันอารมณ์

ปัจจุบันอารมณ์เป็นตาน้ำแห่งธรรมทั้งปวง

วันพุธที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2557

บุญที่เลิศ






บุญที่เลิศ อายุ วรรณะ ยศ เกียรติคุณ สุข และพละ
อันเลิศ ย่อมเจริญแก่บุคคลผู้รู้แจ้งซึ่งธรรมอันเลิศ เลื่อมใส
โดยความเป็นของเลิศ เลื่อมใสในพระพุทธเจ้าผู้เลิศ ผู้
เป็นทักขิไณยบุคคลชั้นเยี่ยม เลื่อมใสในพระธรรมอันเลิศ
ซึ่งเป็นธรรมปราศจากราคะ สงบและเป็นสุข เลื่อมใส
ในพระสงฆ์ผู้เลิศ ซึ่งเป็นบุญเขตชั้นเยี่ยม ถวายทานใน
ท่านผู้เลิศนั้น ผู้มีปัญญาตั้งมั่นแล้วในธรรมอันเลิศ ให้ทาน
แก่ท่านผู้เป็นบุญเขตอันเลิศ จะเกิดเป็นเทวดาหรือมนุษย์
ก็ตาม ย่อมถึงความเป็นผู้เลิศ บันเทิงอยู่ ฯ

วันอังคารที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2557

ภิกษุเหล่าใด



ภิกษุเหล่าใด ล่อลวง กระด้าง ประจบ วางท่า มีมานะดุจ
ไม้อ้อ และไม่ตั้งมั่น ภิกษุเหล่านั้นย่อมไม่งอกงามใน
ธรรม อันพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงแล้ว ส่วนภิกษุ
เหล่าใดไม่  ล่อลวง ไม่ประจบ เป็นธีรชน ไม่กระด้าง ตั้ง
มั่นดีแล้ว ภิกษุเหล่านั้นแล ย่อมงอกงามในธรรม อัน
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงแล้ว ฯ
เมื่อภิกษุสันโดษด้วยปัจจัยอันหาโทษมิได้ ทั้งน้อยและหา
ได้ง่าย ปรารภเสนาสนะ จีวร ปานะ และโภชนะ จิตของ
เธอก็ไม่คับแค้นไม่กระทบกระเทือนทุกทิศ และธรรม
เหล่าใดอันภิกษุนั้นกล่าวแล้ว อนุโลมแก่สมณธรรม
ธรรมเหล่านั้นอันภิกษุผู้ไม่ประมาท มีความสันโดษถือเอา
โดยยิ่ง ฯ


รู้ตามเป็นจริงในโลกทั้งปวง



        ผู้ใดรู้ยิ่งแล้วซึ่งโลกทั้งปวง รู้ตามเป็นจริงในโลกทั้งปวง
พรากไปจากโลกทั้งปวง ไม่มีกิเลสนอนเนื่องในสันดานในโลก
ทั้งปวง ผู้นั้นแล เป็นธีรชนผู้ครอบงำอารมณ์ทั้งปวงได้
ปลด เปลื้องกิเลสเครื่องร้อยรัดทั้งมวลเสียได้ เป็นผู้ถูกต้อง
นิพพานอันมีความสงบอย่างยิ่ง ไม่มีภัยแต่ที่ไหนๆ ผู้นี้
เป็นพระขีณาสพผู้รู้แล้ว ไม่มีทุกข์ ตัดความสงสัยได้แล้ว
ถึงความสิ้นไปแห่งกรรมทั้งปวง เป็นผู้หลุดพ้นเพราะความ
สิ้นไปแห่งอุปธิ บุคคลนี้เป็นผู้มีโชค เป็นพุทธะ ชื่อว่า
เป็นสีหะผู้ยอดเยี่ยม ประกาศพรหมจักรให้แก่โลกทั้งเทว
โลก เพราะเหตุนั้น เทวดาและมนุษย์จึงถึงพระพุทธเจ้า
ว่าเป็นสรณะ มาประชุมกันนมัสการพระองค์ผู้เป็นใหญ่
ผู้ปราศจากความขลาด เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายจัก
นมัสการ พระองค์ผู้เป็นใหญ่ ผู้ปราศจากความขลาด กล่าว
สรรเสริญว่า เป็นผู้ฝึกตนประเสริฐกว่าบรรดาผู้ฝึกตน
ทั้งหลาย เป็นฤาษีผู้สงบกว่าบรรดาผู้สงบทั้งหลาย เป็น
ผู้พ้นชั้นเยี่ยมกว่า บรรดาผู้พ้นทั้งหลาย เป็นผู้ข้ามฝั่ง
ประเสริฐกว่าบรรดาผู้ข้าม ฝั่งทั้งหลาย ในโลกพร้อมทั้ง
เทวโลก จะหาบุคคลเปรียบ ด้วยพระองค์ไม่มี ฯ